จากเหยื่อสู่ผู้ปกป้องคุยกับผู้ก่อตั้ง Scamtify ระบบตรวจเช็คและเตือนภัยมิจฉาชีพด้วย AI
.
จากข้อมูลสถิติระบุว่า ภัยออนไลน์ได้สร้างความเสียหายให้กับคนไทยสูงถึง 6 หมื่นล้านบาท ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่า ภัยออนไลน์จะแฝงตัวมากับการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ของคนไทยในทุกมิติ ทั้งการโพสต์ข้อความ ลิงก์ หรือ App แปลกๆ จากแหล่งที่ไม่รู้จัก ซึ่งอาจเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้คนไทยเสี่ยงถูกหลอกลวงมากยิ่งขึ้น
.
ในขณะเดียวกัน คนไทยที่ใช้สื่อสังคมออนไลน์กว่า 80% คิดว่าการแจ้งความจากการถูกหลอกลวงเงิน มักจะมีโอกาสได้เงินคืนน้อย เพราะกว่าจะติดตามตัวตนก็อาจต้องใช้เวลานาน ทำให้มิจฉาชีพอาจรู้ตัว และมีโอกาสหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยได้ รวมถึง App ป้องกันภัยออนไลน์ที่เคยมีการพัฒนา ก็มีขั้นตอนที่ยุ่งยากและซับซ้อนมากเกินไป ทำให้ไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร
.
ปัญหาเหล่านี้อาจแก้ไม่ตก และดูท้าทาย แต่มีคนกลุ่มหนึ่งที่มองเห็นโอกาส ที่จะพัฒนาแพลตฟอร์มช่วยปกป้องเงินในบัญชีของคนไทย พร้อมแจ้งเตือนให้ระมัดระวังมิจฉาชีพในรูปแบบต่างๆ โดยที่ใช้ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก เพียงแค่คลิกเดียวก็ปลอดภัยจากมิจฉาชีพออนไลน์ได้!
.
88 SANDBOX จะพาไปทำความรู้จักกับ Scamtify สตาร์ทอัพที่ช่วยเตือนภัยจากโลกออนไลน์กัน
.
– เคยตกเป็นเหยื่อภัยออนไลน์
หมู – ปวริศ เรืองจุติโพธิ์พาน CEO และผู้ก่อตั้ง Scamtify เล่าว่า Scamtify เกิดขึ้นจากประสบการณ์ตรงของคนในครอบครัวที่ถูกมิจฉาชีพออนไลน์หลอกลวงเงินมูลค่านับหมื่นบาท และเมื่อไปแจ้งความก็ทำให้พบปัญหาที่ว่า คนที่ถูกหลอกส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยมีโอกาสได้เงินคืน เนื่องจากต้องใช้เวลาในการติดตามเส้นทางการเงิน ซึ่งกว่าจะตามเจอมิจฉาชีพออนไลน์ก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว
.
อีกทั้งการแจ้งเหตุหรือเบาะแสของมิจฉาชีพเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ แต่ยังไม่มีระบบหรือแอปพลิเคชั่นในการแจ้งเตือน ป้องกัน หรือเฝ้าระวังไม่ให้ถูกมิจฉาชีพออนไลน์หลอกลวงเอาเงินก่อนประสบเหตุ ซึ่งคนอาจจะเผลอกดคลิกลิงก์ หรือกดโอนเงินไปให้มิจฉาชีพโดยไม่รู้ตัว จึงเป็นไอเดียตั้งต้นที่อยากทำแพลตฟอร์มแจ้งเตือนมิจฉาชีพออนไลน์ขึ้น
.
– รวมทีมแข่งสตาร์ทอัพการเงินครั้งแรก
หลังจากนั้นในปี 2023 คุณหมูได้เข้าร่วมแข่งขันในโครงการ “Capital Market Datathon” ของ ก.ล.ต. โดยได้นำเสนอ investShield เว็บไซต์ป้องกันและลดความเสียหายจากโฆษณาและการหลอกลวงลงทุน ซึ่งได้ไอเดียมาจากการสำรวจ Insight ของก.ล.ต. ที่มีระบบในการรับแจ้งเหตุหรือเบาะแสของมิจฉาชีพที่หลอกลวงให้ลงทุน แต่ข้อมูลไม่ได้ถูกนำไปใช้งานต่อ
.
ทีมของคุณหมูจึงเห็นประโยชน์ของ Big Data ที่สามารถใช้ AI เข้ามาทำหน้าที่เก็บรวบรวม และประมวลผลข้อมูลภายในเวลาที่รวดเร็วได้ จึงได้พัฒนาแพลตฟอร์มการเงินที่ส่งผลให้ investShield สามารถคว้ารางวัลอันดับ 3 จากการแข่งขันนี้มาครองได้สำเร็จ
.
– มองเห็นโอกาสที่พร้อมเติบโต
แม้ว่าจะได้รับรางวัลจากการแข่งขัน แต่คุณหมูกลับมองเห็นว่าเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น เพราะเมื่อได้มีโอกาสนำ investShield ไปจัดแสดงและเผยแพร่ผลงาน ก็มีผู้คนให้ความสนใจ แต่ติดตรงปัญหาที่ว่า เว็บไซต์ดังกล่าวมีขั้นตอนที่ต้องกรอกข้อมูลเยอะ ค่อนข้างซับซ้อน และมีฟังก์ชั่นมากมาย
.
อีกทั้งจากการแข่งขันในโครงการ Capital Market Datathon ก็ได้รับ Feedback จาก ก.ล.ต.ว่าเป็นไอเดียที่มีศักยภาพ และอยากให้ลองพัฒนาระบบให้ที่มีขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อนมาก สามารถเข้าถึงผู้คนได้ทุกเพศ ทุกวัย จึงเกิดเป็นโอกาสในการสร้างแพลตฟอร์มที่จะทำงานได้เพียงแค่ “คลิก” ไม่กี่ครั้งเท่านั้น
.
– ต่อยอดสู่แพลตฟอร์มเตือนภัยออนไลน์
จากไอเดียการทำ Invest Shield ได้ถูกต่อยอดมาสู่ “Scamtify” ที่มาจากการรวมกันของคำว่า “Scam” และ “Identify” กลายเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยระบุตัวตนของมิจฉาชีพออนไลน์ จากฐานข้อมูลมากกว่า 5 แสนรายการ และใช้งานผ่าน LINE OA ซึ่งช่วยเข้าถึงผู้คนได้ทุกเพศ ทุกวัยมากยิ่งขึ้น
.
และทำงานด้วย AI โดยใช้เวลาไม่ถึง 20 วินาที เพียงแค่ Copy Link หรือกดแชร์ลิงก์ส่งไปที่ LINE OA ของ Scamtify หากเป็นลิงก์ที่มีความเสี่ยงก็จะมีการแจ้งเตือนปรากฏขึ้นที่โทรศัพท์ของผู้ใช้งานทันที
.
– ก้าวสู่เวทีใหญ่ระดับประเทศ
Scamtify ได้เข้าร่วมการแข่งขันสตาร์ทอัพในเวทีต่างๆ โดยเริ่มตั้งแต่การแข่งขัน Thammasat Startup Contest 2024 ซึ่งสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศและเป็นตัวแทนเข้าร่วมโครงการ Startup Thailand League 2024 ในระดับภาคกลาง
.
ซึ่งในระหว่างการแข่งขัน Scamtify ต้องพบเจอกับอุปสรรคต่างๆ มากมาย เช่น ระบบการทำงานของแพลตฟอร์มเกิดขัดข้อง ทำให้ทีมต้องเร่งแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเพื่อให้สามารถแข่งขันต่อได้ จนกระทั่ง Scamtify สามารถคว้าอันดับ 2 จากการแข่งขันระดับประเทศได้ในที่สุด ซึ่งหลังจากนี้ Scamtify ได้ตั้งเป้าที่จะระดมทุนให้ได้อย่างน้อย 5 ล้านบาทจากนักลงทุนต่อไป
.
– ไม่หยุดยั้ง มุ่งมั่นพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ความสำเร็จไม่ได้ทำให้เส้นทางสตาร์ทอัพของ Scamtify ยุติลงแต่อย่างใด แต่กลับกลายเป็นไฟที่ช่วยจุดพลังของทีม ให้กลับมาพัฒนาแพลตฟอร์มอย่างเต็มที่มากขึ้น เพื่อมุ่งสร้างสังคมออนไลน์ที่ปลอดภัยจากมิจฉาชีพออนไลน์ โดยในปัจจุบันมีผู้ใช้งาน Scamtify ผ่าน LINE OA ไปแล้วมากกว่า 200+ คน ช่วยปกป้องการสูญเสียเงินไปได้มากกว่า 5 ล้านบาท
.
รวมถึงเป้าหมายต่อไปของ Scamtify จากการเปลี่ยนแพลตฟอร์มที่ “One Click” หรือตรวจสอบมิจฉาชีพออนไลน์ด้วยการใช้ AI ไปสู่การเป็น “Automated Protection Platform” หรือสามารถตรวจสอบมิจฉาชีพได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องพิมพ์หรือคลิก Link ใดๆ อีกต่อไป
.
Scamtify เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยตรวจสอบมิจฉาชีพออนไลน์ ได้ง่าย ๆ เพื่อให้เราสามารถใช้ชีวิตบนโลกออนไลน์ได้อย่างปลอดภัยและมั่นใจมากขึ้น 88 SANDBOX ต้องขอร่วมแสดงความยืนดี และขอเป็นกำลังใจให้กับ Scamtify และทีมงาน พัฒนาแพลตฟอร์มให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นไปและเติบโตจนประสบความสำเร็จในอนาคตนะครับ!
.
#88SANDBOX #Scamtify #Startup #Innovation