Lean Startup 3 เทคนิคลับ ปั้นสตาร์ทอัพให้ลีนสุดพร้อมเติบโต!
.
รู้หรือไม่ว่า? สตาร์ทอัพที่จะประสบความสำเร็จได้ ต้องเริ่มต้นมาจากจุดเล็กๆ เสมอ เพราะกว่าจะเติบโตอาจจะต้องใช้เวลา ใช้เงิน ใช้ประสบการณ์ และความรู้ที่เก็บสะสมมาเป็นอย่างดี แต่จะดีกว่าไหม? หากมีเทคนิคลัดที่สามารถใช้เริ่มทำสตาร์ทอัพให้เติบโตอย่างรวดเร็วจนคาดไม่ถึง!
.
88 SANDBOX พาไปรู้จักกับ Lean Startup เทคนิคลับสุดปังสำหรับปั้นสตาร์ทอัพมือใหม่กัน!
.
Lean Startup – จับสตาร์ทอัพมาปั้นหุ่นให้ลีน
เป็นการทำสตาร์ทอัพที่ให้ความสำคัญกับคุณค่าที่ผู้บริโภคจะได้รับ ลดขั้นตอนที่ไม่สำคัญหรือสูญเสียทรัพยากรโดยเปล่าประโยชน์ออกไป เหมือนกับการฟิตร่างกายให้หุ่นลีน ก็ต้องเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ ลดหรือหลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพลงไป
.
โดยต้องเริ่มจากการทำความเข้าใจ Insight ของผู้บริโภคก่อนเพื่อลดเวลาและทุนในการออกแบบฟีเจอร์ที่ไม่จำเป็น ซึ่งจะช่วยลดปัญหาที่สตาร์ทอัพลงทุนลงเวลากับผลิตภัณฑ์ไปเสียมากมาย แต่ท้ายที่สุดแล้วกลับไม่มีคนใช้ สุดท้ายก็ต้องล้มเลิกกิจการไปในที่สุด
.
ซึ่งเทคนิคของ Lean Startup คือ Build – Measure – Learn ประกอบด้วย 3 ขั้นตอน ดังนี้
.
Build – สร้างสรรค์ไอเดียให้ตอบโจทย์
.
เป็นการระดมทีมหรือสมาชิกเพื่อร่วมกันคิดค้นไอเดีย หรือสำรวจความต้องการของลูกค้าจนพึงพอใจแล้ว ก็ริเริ่มพัฒนาไอเดียให้เป็น Minimum Viable Product หรือสินค้าที่นำไปใช้งานได้จริงแก่ผู้บริโภคก่อน ซึ่งมีข้อดีที่ทำให้เกิดสินค้าหรือบริการใหม่ๆ ไปยังผู้บริโภคได้ทดลองใช้งานจริง อาจจะให้ทดลองให้ใช้งานฟรี หรือเปิดตัวในราคาถูก จะทำให้สตาร์ทอัพเข้าถึงลูกค้าได้รวดเร็วกว่าคู่แข่งรายอื่นๆ
.
Measure – วัดผลและติดตามอย่างต่อเนื่อง
.
หลังจากที่เริ่ม Build ไอเดียออกมาเป็นสตาร์ทอัพและเริ่มทดลองให้ลูกค้าได้ใช้งานแล้ว ขั้นตอนถัดมาคือการประเมินการเติบโตของสตาร์ทอัพ และติดตามผลความพึงพอใจของลูกค้าที่มีต่อสินค้าหรือบริการของเรา ซึ่งจะทำให้เห็นว่าสตาร์ทอัพของเรามีผลกำไร-ขาดทุนอย่างไร และในขณะเดียวกันก็เป็นการได้รวบรวม Feedback จากลูกค้าที่มีต่อสินค้าหรือบริการของเรา
.
Learn – เรียนรู้และปรับปรุงให้สมบูรณ์
.
ขั้นตอนสุดท้ายที่เป็นการนำข้อมูลที่ได้จากการวัดผล ตลอดจนความคิดเห็นที่จำเป็นจากลูกค้า มาศึกษา วิเคราะห์และสรุปผล เพื่อใช้เป็นแนวทางปรับปรุงหรือพัฒนาสินค้าหรือบริการให้ดีขึ้น และคาดการณ์อนาคตของสตาร์ทอัพว่าจะขับเคลื่อนไปในทิศทางใด มีอะไรที่ต้องเสริมหรือพัฒนา ซึ่งจะช่วยให้ทำสตาร์ทอัพได้อย่างมีประสิทธิภาพ และอาจมองเห็นไอเดียใหม่ที่สามารถต่อยอดได้
.
จะเห็นได้ว่า Lean Startup เป็นเทคนิคที่สตาร์ทอัพนำไปปรับใช้ได้ทันที เพราะใช้เวลาไม่นาน ใช้ทรัพยากรเริ่มต้นน้อย และยังเข้าถึงผู้บริโภคได้รวดเร็ว จึงมีหลายสตาร์ทอัพนำเทคนิคดังกล่าวไปพัฒนาไอเดียของตนเองให้เติบโตอย่างต่อเนื่องมากมาย โดยตัวอย่างสตาร์ทอัพที่ใช้หลักการ Lean Startup แล้วประสบความสำเร็จ ได้แก่
.
– Arincare แพลต์ฟอร์มที่เป็นมากกว่าร้านขายยา
จาก Pian Point ของร้านขายยาที่เก็บข้อมูลยาและเวชภัณฑ์ด้วยการจดบันทึกลงกระดาษ เกิดเป็นสตาร์ทอัพที่พัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับร้านขายยา ที่ทำให้เภสัชกรดูแลการสั่งซื้อ เก็บข้อมูล จัดการคลังยา และบริการลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งมีฐานข้อมูลยามากกว่า 10,000 รายการ และเปิดให้ใช้ร้านขายยาใช้งานแพลตฟอร์มได้ฟรี
.
นอกจากนี้ Arincare ยังได้รับ Feedback จากลูกค้าตลอดเวลา ทำให้สามารถสร้างรายได้ผ่านการขายเครื่องพิมพ์ฉลากยา และค่า Trainning & Turn Key Service สำหรับลูกค้าที่สนใจซื้อบริการเสริม และขยายการให้บริการไปยังโรงพยาบาล ซึ่งปัจจุบันมีฐานข้อมูลร้านขายยามากกว่า 3,000 แห่งทั่วประเทศ
.
– Food Story จัดการร้านอาหารผ่าน iPad เครื่องเดียว
แต่เดิมระบบ POS (Point of Sale) สำหรับใช้ในร้านอาหารต้องใช้ต้นทุนขั้นต่ำสูงถึง 5 หมื่นบาท และพนักงานต้องใช้คอมพิวเตอร์ที่เคาน์เตอร์ในการรับออเดอร์ รันคิว และคิดเงินลูกค้าเป็นหลัก แต่ Food Story จบปัญหานั้นด้วยการยกระบบ POS ให้มาอยู่ใน iPad เครื่องเดียว ที่พนักงานจะสามารถรับออเดอร์ ตรวจสอบวัตถุดิบ และคิดเงินลูกค้าถึงที่โต๊ะด้วยความรวดเร็วกว่าเดิมหลายเท่า
.
Food Story ได้วางระบบ POS มาตั้งแต่ปี 2012 ให้กับร้านอาหารมากกว่า 5 หมื่นแห่ง และเปิดรับ Feedback จากลูกค้าที่ใช้งานต่อเนื่อง จนปัจจุบันสามารถพัฒนาฟีเจอร์ในการใช้งานได้มากถึง 200 ฟีเจอร์ กระทั่งในปี 2023 Food Story ได้ถูก LINE MAN Wongnai ประกาศบรรลุข้อตกลงเข้าซื้อกิจการ ถือเป็นสตาร์ทอัพที่พัฒนาระบบ POS จนสามารถครองตลาดส่วนใหญ่ของประเทศได้เลยทีเดียว
.
จะเห็นได้ว่าเทคนิค Lean Startup ทีมีหัวใจสำคัญอย่าง Build – Measure – Learn สามารถนำมาต่อยอดและพัฒนาได้อย่างต่อเนื่องได้ในทุกขั้นตอน และเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่จะทำให้สตาร์ทอัพประสบความสำเร็จในอนาคตได้นั่นเอง!
.
ที่มา : NIA ,Arincare, Food Story
.
