88 SANDBOX พาไปดู Food Tech เทคโนโลยีด้านอาหารที่กำลังเติบโตต่อเนื่อง
พร้อมโอกาสน่าสนใจในอุตสาหกรรม ให้เหล่าสตาร์ทอัพอยากจับเทรนด์ไปต่อยอดให้ปังได้
.
1. สังเคราะห์อาหารแห่งอนาคต เพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภค
.
ปัจจุบันโลกกำลังเข้าสู่ภาวะขาดแคลนอาหาร จึงเกิดแนวคิดในการคัดเลือกและพัฒนาสายพันธุ์ของจุลินทรีย์ การตัดต่อพันธุกรรม การทำปฏิกิริยาทางเคมีต่างๆ ที่ทำให้สามารถสังเคราะห์สารอาหารที่ต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพและแม่นยำ โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการตามธรรมชาติซึ่งใช้ทรัพยากรมาก กินเวลานาน ทั้งยังควบคุมคุณภาพการผลิตได้ยากอีกด้วย
.
ธุรกิจตอบโจทย์:
– Air Protein ผลิตอาหารจากแบคทีเรียในอากาศ
สตาร์ทอัพจากสหรัฐอเมริการายนี้ ที่ใช้แบคทีเรียชนิด Hydrogenotrophs ในการผลิตผงโปรตีนคุณภาพสูง จากอากาศและสารอาหารประเภทอื่นๆ ซึ่งสามารถนำไปขึ้นรูปเป็นผลิตภัณฑ์คล้ายเนื้อสัตว์ได้หลากหลายทั้ง หมู ไก่ หรือแม้แต่เมนูซีฟู้ด เป็นต้น
.
2. AI ช่วยคัดกรองคุณภาพ มั่นใจตั้งแต่ผลิตจนส่งออก
.
ในปัจจุบันมีการนำ AI มาใช้ในการพัฒนาและควบคุมคุณภาพการผลิตสินค้าเกษตรต่างๆ เพื่อให้เกิดความมั่นใจในคุณภาพของสินค้า ที่สามารถส่งออกไปยังต่างประเทศ เพื่อขยายโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจในอนาคต เพื่อยกระดับและเพิ่มความแม่นยำในการตรวจสอบ รวมถึงรองรับการเก็บข้อมูลเพื่อนำไปใช้พัฒนาอุตสาหกรรมการเกษตรในอนาคต
.
ธุรกิจตอบโจทย์:
– EASYRICE ตรวจสอบสายพันธุ์และคุณภาพข้าวด้วย AI
สตาร์ทอัพสัญชาติไทยที่มีจุดเริ่มต้นมาจากการพบปัญหาปลอมปนสายพันธุ์ข้าวเปลือก และการตรวจสอบคุณภาพข้าวสารที่ต้องใช้คนในการคัดเลือก ที่อาจเกิดความผิดพลาดได้ จึงเกิดนวัตกรรมการใช้ AI เพื่อคัดเเยกสายพันธุ์และตรวจสอบคุณภาพข้าว พร้อมเปิดตัว EASYRICE Kanna ระบบ AI สำหรับเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชน เพื่อขยายโอกาสไปสู่ภาคครัวเรือนมากยิ่งขึ้น
.
3. ผลิตอาหารด้วย Tech สมัยใหม่ ครีเอทอาหารได้ทุกรูปแบบ
.
เทคโนโลยีเครื่องพิมพ์ 3 มิติ นอกจากจะใช้ผลิตสิ่งของได้แล้ว ยังถูกนำไปพัฒนาเพื่อผลิตอาหารได้อีกด้วย โดยใช้หลักการแบบเดียวกับเครื่องพิมพ์ 3 มิติอื่นๆ แต่เปลี่ยนจากการฉีดพลาสติกหรือโลหะ มาเป็นอาหารแทน เพียงแค่ใส่ส่วนผสมที่จำเป็นลงไปเท่านั้น
.
ธุรกิจตอบโจทย์:
– Impossible Foods : ผลิตเบอร์เกอร์เนื้อเทียมด้วยเครื่องพิมพ์ 3D
สตาร์ทอัพสัญชาติสหรัฐอเมริกา ได้ผลิตและจำหน่ายแฮมเบอร์เกอร์ที่มีรสชาติคล้ายเนื้อสัตว์ แต่ทำจากพืชที่เลียนแบบลักษณะพื้นผิว และรสชาติของเนื้อ โดยใช้เครื่องพิมพ์ 3 มิติในการผลิต ซึ่งมีหน้าตาออกมาคล้ายกับแฮมเบอเกอร์ และช่วยกระตุ้นยอดขายได้เป็นอย่างดีจากกลุ่มผู้รักสุขภาพ
.
4. ลด Food Waste อย่างเป็นระบบลดขยะอาหารที่เหลือทิ้ง
.
แม้วิกฤตอาหารขาดแคลนจะรุนแรงต่อเนื่อง แต่ในขณะเดียวกันมนุษย์ก็สร้างขยะอาหาร หรือ Food Waste ไม่น้อยเช่นเดียวกัน โดยคิดเป็นปริมาณที่เกิดขึ้นถึงปีละ 1,300 ล้านตัน ทำให้เกิดแนวคิดในการลด Food Waste โดยผู้ผลิตและร้านอาหาร ด้วยการถนอมอาหารเพื่อยืดอายุอาหารให้นานขึ้น หรือสร้างเครือข่ายจำหน่ายอาหารใกล้หมดอายุในราคาที่ถูกลง
.
ธุรกิจตอบโจทย์:
– StixFresh สติกเกอร์ถนอมอาหารได้ 14 วัน
StixFresh นวัตกรรมสติกเกอร์ที่ใช้สารประกอบจากพืชธรรมชาติ เมื่อติดลงบนผลไม้ สารเคลือบบนสติกเกอร์จะกระจายออกเพื่อสร้างชั้นป้องกันที่ปกคลุมพื้นผิวและทำให้ผลไม้สุกช้าลง ช่วยคงความสดหรือยืดอายุการเก็บรักษาผลไม้ก่อนเน่าเสียได้นานถึง 14 วัน
.
5. ร้านอาหารที่ไม่เหมือนใคร สร้างประสบการณ์ใหม่ให้ลูกค้า
.
จาก Pain Point ของลูกค้าไปร้านอาหารแล้วต้องรอคิวนาน ดูเมนูเยอะแล้วงง จ่ายเงินไม่ได้ จึงเกิดเทรนด์นวัตกรรม Restaurant Tech ที่ใช้อำนวยความสะดวกให้กับทั้งลูกค้า และช่วยให้เจ้าของร้านอาหารสามารถบริหารจัดการงานต่างๆ ได้ง่ายดายมากขึ้น จึงเป็นโอกาสที่ดีหากสตาร์ทอัพที่ทำร้านอาหารต้องการนำ Tech เข้ามาเพื่อพัฒนาคุณภาพการให้บริการที่ดีและมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น
.
ธุรกิจตอบโจทย์:
– Easy Eat ดูเมนูอาหารผ่าน AR จ่ายง่ายๆ ด้วย e-Payment
สตาร์ทอัพจากประเทศสิงคโปร์ ที่ให้บริการดิจิทัลแพลตฟอร์มแก่ร้านอาหารเจ้าดังๆ ในประเทศ โดยลูกค้าสามารถดูเมนูผ่านเทคโนโลยี AR ที่จะแสดงคำอธิบายเมนู วัตถุดิบ คุณค่าทางโภชนาการ เมื่อกดสั่งอาหาร ก็จะติดตามรายการอาหารแบบ Real-Time และยังสามารถชำระค่าอาหารด้วยระบบ e-Payment Gateway ต่างๆ ผ่านโทรศัพท์มือถือของตนเอง
.
ดังนั้น ข้อดีของ Food Tech ต่างๆ เหล่านี้ จะช่วยให้สตาร์ทอัพด้านอาหารมีโอกาสสร้างรายได้ที่มากขึ้น และเป็นการนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ๆ พร้อมสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้า หากใครมีไอเดียเด็ด ๆ ที่อยากแชร์ต่อ อย่าลืมมาเข้าร่วมกับ 88 SANDBOX เพื่อหาโอกาสเติบต่อไปกันนะ!
.
ที่มา : NIA, KBANK Katalyst, DEPA, ธนาคารกรุงเทพ