88 SANDBOX ชวนไปดู Design Thinking หรือ กระบวนการคิดเชิงออกแบบ ซึ่งช่วยให้ธุรกิจหรือสตาร์ทอัพเข้าใจปัญหาของผู้ใช้งานหรือกลุ่มเป้าหมายอย่างลึกซึ้ง และสร้างสรรค์โซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างแท้จริง!
.
รู้ไหมว่า Apple ประสบความสำเร็จจากการขาย iPhone ไปทั่วโลกได้อย่างไร? ทำไม Google ถึงเป็น Search Engine อันดับหนึ่งที่ทุกคนเลือกใช้? หรือแม้แต่ Disneyland ที่แก้ปัญหานักท่องเที่ยวจำนวนมากรอคิวเป็นเวลานานได้ด้วยวิธีง่ายๆ ที่หลายคนคาดไม่ถึง!
.
เพราะการทำธุรกิจในปัจจุบัน จำเป็นต้องเข้าใจความต้องการของกลุ่มเป้าหมายอย่างลึกซึ้ง Design Thinking จึงเป็นการแก้ไขปัญหาจากมุมมองของผู้ใช้งานหรือผู้บริโภค เพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ที่มีคุณค่าและสอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้งาน ดังนั้น พี่ป่าน-วิชญะ จารุจินดา Incubation Manager of 88 SANDBOX และพี่พีส-ศุภลักษณ์ สัมปทาภักดี Project Manager of 88 SANDBOX จะมาอธิบายให้ฟังว่า Design Thinking มีขั้นตอนอะไรบ้าง
.
Emphathize – เข้าถึงและเข้าใจกลุ่มเป้าหมายโดยยึดคนเป็นศูนย์กลาง
เป็นขั้นตอนแรกของ Design Thinking ที่เน้นให้เข้าใจว่ากลุ่มเป้าหมายมีความต้องการ หรือมีปัญหาอะไรที่ไม่สามารถแก้ไขได้ โดยอาจเน้นการตั้งคำถามว่า ‘ทำไม’ ไปจนกว่าจะเจอต้นตอของปัญหาหรือการสังเกตหรือสัมภาษณ์กลุ่มเป้าหมายว่าชอบอะไร ไม่ชอบอะไร หรือสนใจอะไร ซึ่งข้อดีของ Empathize ก็คือการหาคำตอบจากศูนย์ โดยไม่ใช้ สมมติฐานหรืออคติส่วนตัวในการตัดสิน
.
Define – กำหนดกรอบ ตั้งประเด็นปัญหาให้ชัดเจน
เป็นการสรุปข้อมูลจากขั้นตอนที่แล้วเพื่ออธิบาย ‘ปัญหาของผู้ใช้’ ออกมาให้ชัดเจนที่สุด โดยการสรุปปัญหาของกลุ่มเป้าหมายที่ดีต้องตอบโจทย์ให้ได้ว่าเป้าหมายคือใคร ปัญหาคืออะไร ผลลัพธ์ที่ต้องการคืออะไร เพื่อให้ได้ปัญหาของกลุ่มเป้าหมายที่ควรแก้ไขมากที่สุด
.
Ideate – ระดมสมอง ลองหาไอเดียใหม่
ขั้นตอนนี้พูดง่ายๆ คือการให้สมาชิกในทีม มาร่วมกันแชร์ไอเดียหรือความคิดของตนเอง โดยไม่จำกัดกรอบความคิด เปิดโอกาสให้คิดนอกกรอบ ทุกความคิดเห็น เพื่อประเมินว่ามีไอเดียใดบ้างที่น่าทดลองหรือมีความน่าสนใจและสามารถเป็นไปได้จริง
.
Prototype – สร้างแบบจำลอง มองจุดที่ต้องปรับให้ลึก
เป็นการนำไอเดียที่ได้จากขั้นตอน Ideate มาสร้างแบบจำลอง หรือ Mock Up ด้วยความรวดเร็วและต้นทุนต่ำ เพื่อให้เรารู้ว่าไอเดียที่เราคิดได้นั้น สามารถใช้ได้จริงหรือไม่ โดยต้องคำนึงถึงความต้องการของผู้ใช้เป็นหลัก เพื่อให้มั่นใจว่าไอเดียของเรานั้นสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ได้จริง และหากพบข้อแก้ไข ก็สามารถปรับแก้ให้ดีขึ้นได้ก่อนนำไปทดลองใช้กับกลุ่มเป้าหมาย
.
Test – ทดสอบกับกลุ่มเป้าหมาย
ขั้นตอนสำคัญของการทดสอบคือ การเก็บข้อมูลอย่างรวดเร็ว ว่าต้องมีการ ‘ปรับเปลี่ยน ปรับปรุง แก้ไข’ ซ้ำหลายรอบเพื่อให้ได้นวัตกรรมหรือผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด และสังเกตผลตอบรับของกลุ่มเป้าหมายว่า มีอะไรที่ผู้ใช้งานชื่นชอบ และมีอะไรที่เราต้องปรับปรุงต่อไป
.
ซึ่งทั้ง Design Thinking ทั้ง 5 ขั้นตอนนี้ เป็นกระบวนการที่จะช่วยให้ธุรกิจเข้าใจความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อสร้างแนวคิดใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างแท้จริง ซึ่งหากพบว่าขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งที่มีปัญหา ก็สามารถกลับไปแก้ไขที่ขั้นตอนก่อนหน้าได้ตลอดเวลา จึงเป็นกระบวนการคิดที่เหมาะสำหรับสตาร์ทอัพในยุคนี้อย่างแท้จริง
.
ที่มา: วิชญะ จารุจินดา Incubation Manager of 88 SANDBOX, ศุภลักษณ์ สัมปทาภักดี Project Manager of 88 SANDBOX
